หากจะหาที่พักในเชียงรายที่เป็นธรรมชาติ ขุนเขา สายหมอก อยากจะเอนองค์ลงนอนให้สบายกายสบายใจ สูดเอาอากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่นเข้าไปให้เต็มปอด รวมถึงได้สัมผัสถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ อีกทั้งยังได้ชิมอาหารเลิศรสที่หากินไม่ได้ทั่วไป ก็ต้องไปหาที่พักเชียงรายแบบโฮมสเตย์ถึงจะตรงกับตามคอนเซปที่กล่าวมา เมื่อพร้อมแล้วจัดกระเป๋าตามมาได้เลย

  1. 1. Akha Mudhouse Maesalong

    โฮมสเตย์บ้านดินอาข่าดอยแม่สลอง จากหมู่บ้านอาข่าเล็ก ๆ ที่ไม่มีสิ่งดึงดูดอะไรที่จะให้นักท่องเข้ามาพักผ่อน ด้วยความฝันบวกกับความสามารถของ “โยฮัน” หนุ่มอาข่าเจ้าบ้าน ได้สร้างโฮมสเตย์บ้านดิน และนำเอาเอกลักษณ์วิถีชีวิตของชนเผ่าอาข่าดั้งเดิมแท้ๆ มาให้นักท่องเที่ยวผู้เข้าพักได้สัมผัส ในการเดินทางมาที่พักใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นจากสนามบินเชียงราย

    โฮมสเตย์บ้านดินอาข่าดอยแม่สลอง ที่พักฮมสเตย์บ้านดินอาข่า

    โฮมสเตย์บ้านดินอาข่าตั้งอยู่หมู่บ้านหล่อโย ดังนั้นนักท่องเที่ยวผู้เข้าพักจะได้ใช้ชีวิตประจำวันตามวิถีชาวอาข่าแบบดั้งเดิม ได้ชิมอาหารที่มีรสชาติพื้นบ้าน และยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้ผู้เข้าพักได้ร่วมทำ เช่น เดินป่า แต่งชุดประจำเผ่า ฝึกทำอาหารพื้นบ้าน เป็นต้น ลองหาเวลามาเที่ยวที่หมู่บ้านอาข่าหล่อโยแล้วจะรู้ว่าการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์หาได้จากที่นี่จริงๆ

    การเดินทาง เดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจ.เชียงราย ออกจากสถานีขนส่งฯ เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข1 พหลโยธิน (สายเชียงราย-แม่สาย)ผ่านห้าแยกพ่อขุนเม็งราย ตรงไปข้ามสะพานแม่น้ำกก ตรงไปเข้าต.บ้านดู่  ตรงไป ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สุดเขตอ.เมือง ที่ต.ท่าสุด ตรงไปผ่านด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง เข้าเขตอ.แม่จัน

    ตรงไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข1 ผ่านหน้าโรงพยาบาลแม่จันเบี่ยงซ้ายเล็กน้อยเข้าสู่ถนนหมายเลข107ตรงไปเรื่อย ๆไปจนถึงด่านตรวจแยกกิ่วสะไตเลี้ยวไปทางขวาบนถนนหมายเลข1098ตรงไปเรื่อย ๆ ตามถนนขึ้นลงเขาผ่านโรงเรียนบ้านรวมใจบนถนน1089ๆไปอีก 4 กิโลเมตร จะเห็นป้ายทางขึ้นหมู่บ้านให้เลี้ยวขวาไปตามทางเข้าหมู่บ้านหล่อโยได้เลย

  2. 2. โฮมสเตย์บ้านอังหล่อชา

    นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวายมากกว่าที่จะไปแอดเวนเจอร์กับกิจกรรมหนัก ๆ นิยมที่จะพักโฮมสเตย์ที่สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายในชุมชนที่พักนั้น ที่พักเชียงรายในสไตล์แบบสโลว์ไลฟ์  “โฮมสเตย์บ้านอังหล่อชา” เป็นอีกหนึ่งที่ต้องไปเช็คอิน ซึ่งจะสัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่า

    โฮมสเตย์บ้านอังหล่อชา ที่พักโฮมสเตย์บ้านอังหล่อชา

    ท่ามกลางหุบเขา อยู่ที่อำเภอแม่จัน ที่พักจะอยู่รวมกันในหมู่บ้านของเผ่าอาข่า ห้องพักจะมีลักษณ์เหมือนกับบ้านของชาวเขา ชาวเขาในหมู่บ้านยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน ซึ่งมีกิจกรรมมากมายให้กับผู้ที่เข้าไปพัก เช่น เดินชมป่าเขา สัมผัสวัฒนธรรมชนเผ่า ได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง เป็นต้น เป็นโฮมสเตย์อีกที่สงบเรียบง่ายตามวิถีชีวิตชนเผ่า ราคาที่พักก็ไม่แพงอยู่ในระดับหลักร้อย หากต้องการสักที่ที่สงบและเรียบง่ายเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริงมาได้ที่นี่เลย

    การเดินทาง จากศาลากลางจังหวัดเชียงราย ผ่านชุมชนบ้านใหม่ ออกไปจนถึงเส้นทางถนนพหลโยธิน(ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข1)ขับตรงไป บนถนนดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนสายเชียงราย-แม่สาย ผ่านกิ่วทัพยั้งเข้าเขตพื้นที่อำเภอแม่จัน จะมีป้ายเลี้ยวซ้ายตรงแยกไฟแดง(เรียกกันว่าแยกแม่สลอง) ใช้เส้นทาง1089 ผ่านตำบลแม่สลองใน จนไปถึงสามแยกอีก้อ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงรายแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 17 กิโลเมตรถึงบ้านกลาง ผ่านบ้านสันติคีรี จนไปถึงแยกเข้าสู่หมู่บ้านโฮมสเตย์

  3. 3. โฮมสเตย์บ้านแม่เต๋อ

    หมู่บ้านเล็ก ๆ  บ้านแม่เต๋อ เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าอาข่า ที่ยังใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชนเผ่า เรียบง่าย สงบสุข อาชีพหลักทำการเกษตร ต่อมาพัฒนาเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม มีที่พักแบบโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่ชอบ หรืออยากสัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่า และที่สำคัญได้มาพักแบบสโลว์ไลฟ์ ชื่นชมดื่มด่ำกับอากาศที่บริสุทธิ์สามารถสูดเข้าไปได้อย่างเต็มปอดไม่ต้องกั๊ก

    โฮมสเตย์บ้านแม่เต๋อ

    ที่โฮมสเตย์บ้านแม่เต๋อ ที่พักไม่แพงอยู่ในราคาที่หลักร้อยต้น ๆ และมีกิจกรรมให้ทำมากมาย พร้อมบริการอาหารชนเผ่าให้ได้ชิมลิ้มลอง เมื่อมีโอกาสที่จะได้พักผ่อนที่เรียกว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง บ้านแม่เต๋อเป็นอีกที่ ที่ไม่ควรมองข้าม

    การเดินทาง จากศาลากลางจังหวัดเชียงราย ผ่านชุมชนบ้านใหม่ ออกไปจนถึงเส้นทางถนนพหลโยธิน(ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข1)ขับตรงไป บนถนนดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนสายเชียงราย-แม่สาย ผ่านกิ่วทัพยั้งเข้าเขตพื้นที่อำเภอแม่จัน จะมีป้ายเลี้ยวซ้ายตรงแยกไฟแดง(เรียกกันว่าแยกแม่สลอง) ใช้เส้นทาง1089 ผ่านตำบลแม่สลองใน จนไปถึงสามแยกอีก้อ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงรายแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 17 กิโลเมตรถึงบ้านกลาง ผ่านบ้านสันติคีรี จนไปถึงแยกเข้าสู่หมู่บ้านโฮมสเตย์

  4. 4. โฮมสเตย์บ้านจะบูสี

    จะบูสีถึงจะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ชุมชนของชนเผ่ามูซอแดง หรือลาหู่ แต่มีประวัติการตั้งถิ่นฐานมายาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งมีไม่กี่หลังคาเรือนแต่ยังคงประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น จากเดิมที่เป็นหมู่บ้านทำนาทำไร่ข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ และรับจ้างทั่วไป แต่ชาวบ้านต้องการหารายได้เสริม พร้อมกับทางหน่วยงานต้องการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเผยแพร่วิถีชีวิตวัฒนธรรมของชนเผ่า จึงได้ร่วมมือกันเปิดบ้านจะบูสี เป็นแหล่งท่องเที่ยว

    โฮมสเตย์บ้านจะบูสี ที่พักโฮมสเตย์บ้านจะบูสี

    โดยภายในหมู่บ้านจะมีโฮมสเตย์รองรอบนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจให้บริการด้วยราคาไม่แพง พร้อมกับมีกิจกรรมที่สนุกให้กับผู้เข้าพักได้มีส่วนร่วม อาทิเช่น การทำอาหารพื้นบ้าน ชมวิถีชีวิตของชนเผ่า เดินป่าชมน้ำตกแบบชิว ๆ ความสวยงามของธรรมชาติ การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายของชนเผ่าและมีน้ำใจกับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนทำให้บ้านจะบูสี จะต้องไปเยี่ยมเยือนกันสักครั้งนึงให้ได้

    การเดินทาง  เริ่มจากตัวเมืองเชียงรายใช้เส้นทางไปอ.แม่จัน ต่อไปจนถึงดอยแม่สลอง ไปยังต.แม่สลองนอก ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ก็จะถึงบ้านจะบูสี

  5. 5. ลันเจีย ลอดจ์

    นักท่องเที่ยวทุกคนต้องการที่พัก ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ที่สงบร่มรื่น เพื่อเติมพลังให้กับกายที่กำลังเหนื่อยล้าให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ลันเจีย ลอดจ์ เป็นที่พักเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ถือได้ว่าเป็นคำตอบหนึ่งสำหรับความต้องการนี้ ลันเจีย ลอดจ์ ตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านกิ่วกาญจน์มีส่วนร่วม ในหมู่บ้านจะมีชาวม้งและลาหู่สองชนเผ่าอยู่ร่วมกัน ทั้งสองชนเผ่ายังดำเนินวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ทำไร่ และตัดไม้

    โฮมสเตย์ลันเจีย ลอดจ์ ที่พักลันเจีย ลอดจ์

    เมื่อชาวบ้านตระหนักถึงคุณค่าของป่า จึงลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และนำเอาการท่องเที่ยวมาช่วยเสริมให้กับหมู่บ้าน ทำให้นักท่องที่ที่เข้ามาพักที่ ลันเจีย ลอดจ์ จะได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน ได้ร่วมกิจกรรมต่าง  ๆ กับชาวเขา เช่น เดินป่าปลูกป่า ทำผ้าบาติก ท่ามกลางความเงียบสงบแต่ผู้เข้าพักไม่เงียบเหงากับกิจกรรมที่ให้ร่วมสนุก ราคาโดยรวมใน 2 วัน 1 คืน พร้อมกิจกรรมอยู่ในราคาที่สองพันปลาย ๆ ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับที่พักที่มีธรรมชาติสวยงาม สงบ และปลอดภัย

    การเดินทาง เริ่มจากอำเภอเชียงของใช้ถนนสายเชียงของ-เชียงแสน เดินทางไปประมาณ 32 กม. จะถึงบ้านม้งกิ่วกาญจน์

เมื่อได้พักอย่างเต็มที่ท่ามกลางขุนเขา ธรรมชาติอากาศบริสุทธิ์ รวมทั้งกินอาหารสดใหม่ จะทำให้มีพลังเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะกลับไปต่อสู้ ฝ่าฟันกับความวุ่นวาย ถือว่าคุ้มค่ามาก หาเวลาและโอกาสพักบ้างออกมาท่องเที่ยวเปิดโลกใหม่ รับประสบการณ์ใหม่ พบปะเพื่อนใหม่ แล้วจะรู้ว่าชีวิตนี้มีอะไรมากกว่านั่งอยู่แค่หน้าจอคอมฯ

Author Image

Jatuporn